สสอ.แกลง ได้ัจัดอบรมการใช้ Blogspot ในวันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๕๕ ณ สำนักงานสาธารณสุขอำเภอแกลง เพื่อจัดทำข้อมูลเผยแพร่การทำงานของรพ.สต. โดยมีนายโสภา สุขโส
ภา เป็นวิทยากร
จัดทำขึ้นเพื่อเก็บข้อมูล ประชาสัมพันธ์กิจกรรมโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล งานสาธารณสุขชุมชน เทคโนโลยี ข้อมูลข่าวสาร ที่จำเป็นต่องานสาธารณสุข
วันพุธที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2555
วันจันทร์ที่ 25 มิถุนายน พ.ศ. 2555
Access Point
ทำความรู้จักกับ Mode ต่างๆของ Access Point กันดีกว่า
การใช้งานเครือข่ายไร้สายนั้น นอกจากเราจะใช้มันเป็นตัวเชื่อมต่อเข้ากับเครือข่ายหลักแบบมีสาย หรือที่เราเรียกว่า Infrastructure Mode หรือการทำงานที่ Access Point ธรรมดาๆทั่วไปทำงานได้เป็นพื้นฐานอยู่แล้วแต่ด้วยแต่ละพื้นที่ ที่จำเป็นต้องการใช้เครือข่าย wireless อาจจะประสบปัญหาเช่น ความแรงไม่พอ ต้องการต่อ Outdoor Wi-Fi Hotspot ที่อยู่ในระยะไกล, ต้องการแชร์อินเตอร์เน็ตที่มาจากผู้ให้บริการ, ต้องการขยายพื้นที่ใช้งาน, ต้องการแชร์อินเตอร์เน็ตบอร์ดแบนด์ หรือแม้แต่การเชื่อมต่อแบบ Point to Point
ทำความรู้จักกับแต่ละ Mode กันว่า ท่านจะเลือกใช้ Mode ต่างๆ เมื่อใด ในสถานการณ์แบบใด
1.Access Point
โหมด Access Point คือโหมดพื้นฐานที่สุดของการใช้งาน Wireless อยู่แล้วนั่นคือ Access Point จะทำหน้าที่ในการเชื่อมต่อเครื่องลูกข่ายเข้าสู่ ระบบเครือข่ายแบบมีสาย เพื่อเข้าไปใช้งานอินเตอร์เน็ต หรือเข้าไปยังเครือข่าย LAN ของสำนักงานเป็นต้น โดยการเข้าถึงเครือข่ายอาจจะมีการเข้ารหัส (Encryption) โดยผู้ใช้งานจะต้องใส่ Key ก่อนเชื่อมต่อ บนมาตรฐาน WEP หรือ WPA เป็นต้น
และสำหรับ AP บางรุ่นก็สามารถทำ Multi-SSID และ VLAN เพื่อแบ่ง Traffic ของผู้ใช้งานออกจากกันได้ด้วย
วันศุกร์ที่ 22 มิถุนายน พ.ศ. 2555
วันพุธที่ 13 มิถุนายน พ.ศ. 2555
ความคืบหน้า พรบ.วิชาชีพสาธารณสุข ฯ
ชื่อ เอกสาร : ระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๔ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๓๘ (สมัยสามัญนิติบัญญัติ) เป็นพิเศษ ในวันพุธที่ ๑๓ มิถุนายน ๒๕๕๕ เวลา ๐๙.๓๐ นาฬิกา ณ ตึกรัฐสภา |
|
ไฟล์เอกสารฉบับนี้ไม่ใช่รูปภาพ (นามสกุล .pdf) แสดงเอกสาร
พรบ.วิชาชีพการสาธารณสุข ฯ
วันที่ 13 มิถุนายน 2555 จะมีการพิจารณาในวาระแรกเพื่อรั บหลัก
การร่าง พรบ.วิชาชีพการสาธารณสุข (ชุมชน) พ.ศ. .... มี 4 ร่าง คือ
ร่างรัฐบาล ร่างประชาชนที่เสนอโดย นายไพศาล บางชวด
และประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งร ่วมกันเข้าชื่อเสนอให้มีกฎหมายน ี้
และร่าง ส.ส.ปาริชาติ ชาลีเครือ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย
และร่างของประธานวิปฝ่ายค้าน นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ อยู่ในลำดับที่ 3
ถัดจาก ร่าง พรบ.ฟอกเงิน และร่าง พรบ.การก่อการร้าย
หากการประชุมพิจารณาทั้ง 2 ร่าง คือ ร่างลำดับที่ 1 และที่ 2 ไม่ยืดเยื้อ
ก็จะพิจารณาร่าง พรบ.วิชาชีพ สธ.ฯ ได้ทันในวันที่ 13 มิย.นี้
หากไม่ทันก็จะพิจารณาต่อในวันรุ ่งขึ้น คือ วันที่ 14 มิย.นี้ เมื่อรับหลักการแล้ว จะแต่งตั้งคณะกรรมาธิการวิสามัญ เพื่อพิจารณาเนื้อหาสาระของร่าง พรบ.ฯ ต่อไป เพื่อนำเข้าสู่วาระ 2 และวาระ 3 ในการแปรญัตติ ดูวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ครั้งที่ 38 สมัยนิติบัญญัติที่แนบมานี้
วันอังคารที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2555
กติกา OP/OO ปีงบ56
กติกา ปีงบ56
โดย ลุงหนวด หมออนามัย ใน JHCIS_ลุงหนวด · แก้ไขเอกสาร
เงื่อนไข
การรับข้อมูลและการคิดคะแนน แฟ้ม CHRONICFU , LABFU 561.
การให้บริการตรวจติดตามโรคเรื้อรังที่กำหนดHT I10 – I15DM E10 – E14Renal
Failure N17 – N192. DATE_EXAM ต้องอยู่ในช่วง(ก.ค.55-มิ.ย.56)3.
การรับบริการอื่นในผู้ป่วยโรคเรื้อรังที่ไม่เกี่ยวข้องกับโรคเรื้อรัง
กรุณาอย่าทำแฟ้ม ChronicFU & LabFU4. การตรวจซ้ำ : CHRONICFU :
PCUCODE+CID+DATE_SERVLABFU : PCUCODE+CID+DATE_SERV+LABTEST5. การคิด
Point: 0.05 & 0.10 Point
เงื่อนไขการรับข้อมูลและการคิดคะแนน แฟ้ม NCDSCREEN 56 1. การให้บริการคัดกรองในปชก.อายุตั้งแต่ 15 yr.2. ทำการคัดกรองปีละครั้งต่อคน3. DATE_EXAM ต้องอยู่ในช่วง(ก.ค.55-มิ.ย.56)4. การตรวจซ้ำ : PCUCODE+CID5. การคิดค Point: 0.10 Point
เงื่อนไขการรับข้อมูลและการคิดคะแนน แฟ้ม PP & MCH 56 1. เก็บรายละเอียดการดูแลเด็กและมารดาหลังคลอด2. วันเดือนปีที่คลอด(BDATE)ต้องอยู่ในช่วง(ก.ค.55 – มิ.ย.56)3. การคิด point ต้องมีการดูแลหลังคลอดอย่างน้อย 2 ครั้ง(BCARE1<BCARE2, PPCARE1<PPCARE2)4. การตรวจซ้ำ : PP PCUCODE+CID MCH PCUCODE+CID+GRAVIDA 5. การคิด Point: 3 Point
เงื่อนไขการรับข้อมูลและการคิดคะแนน แฟ้ม NUTRI 561. เก็บภาวะโภชนาการของปชก.ที่อายุ < 15 ปี2. การสำรวจหรือบริการให้จัดส่งข้อมูลตามรอบเท่านั้น- เด็ก 0-5 ปี จัดเก็บ 4 ครั้ง (ก.ค. , ต.ค., ม.ค. และ เม.ย.)- อายุ 6- 15 ปี จัดเก็บ 2 ครั้ง (ก.ค. และ ม.ค.)3. DATE_SERV ต้องอยู่ในช่วงเดือนที่กำหนด4. Date_Send อยู่ในช่วงของสิ้นเดือนของเดือนถัดไป5. ถ้าไม่ได้บริการหรือทำการสำรวจในช่วงที่กำหนดห้ามมิให้ส่งข้อมูลนั้น6. การส่งข้อมูลซ้ำมีผลต่อ Performance
เงื่อนไขการรับข้อมูลและการคิดคะแนน แฟ้ม SURVEIL 561. เก็บรายละเอียดของโรคที่ต้องเฝ้าระวัง รง.5062. ส่งเฉพาะบริการรายใหม่และเป็นโรคที่เฝ้าระวัง3. สปสช.ตรวจสอบกับ Look up รง.5064. การส่งบริการเกินจริงมีผลให้ถูก Pending5. ความสำคัญคือต้องส่งข้อมูลโดยเร็ว6. การคิดค Point: <= 7 days 1.00 Point8 – 60 days 0.50 Point> 90 days 0.00 Point
เงื่อนไขการรับข้อมูลและการคิดคะแนน แฟ้ม SERVICE,DIAG,DRUG,PROCED 561. การให้บริการต้องเชื่อมโยงข้อมูลได้ โดยอย่างน้อยต้องมีข้อมูล SERVICE & DIAG2. กรณีการให้บริการ ส่งเฉพาะบริการรายใหม่3. การส่งบริการเกินจริงมีผลให้ถูก Pending4. การคิดค Point: SERVICE 1.00 PointDIAG 0.00 PointPROCED 0.00 PointDRUG 0.05 Point
เงื่อนไขการรับข้อมูลและการคิดคะแนน แฟ้ม CHRONIC 561. เป็นแฟ้มสะสม2. สำรวจสถานะปัจจุบันในเดือน กรกฎาคม 2555 (เท่านั้น)3. ไม่มีการส่งข้อมูล update4. กรณีการให้บริการ ส่งเฉพาะบริการรายใหม่5. การส่งสำรวจซ้ำมีผลต่อการคิด Performance6. คิดคะแนนเฉพาะโรคที่กำหนด7. การคิด Point: CHRONIC 0.05 Point
เงื่อนไขการรับข้อมูลและการคิดคะแนน แฟ้ม PERSON 561. แฟ้มสะสมเก็บโดยการสำรวจไม่ส่งซ้ำ(ส่งปีละครั้ง(ทั้งหมด)>>>ก.ค.55 )2. การส่งสำรวจซ้ำ/ส่งซ้ำ มีผลต่อการคิด Performance3. การคิด Point: PERSON 0.10 Point
เงื่อนไขการรับข้อมูลและการคิดคะแนน แฟ้ม DEATH 561. เป็นแฟ้มสะสม2. เริ่มส่ง death ตั้งแต่ 1 ก.ค.55 (DDEATH)3. Death จ่ายเฉพาะที่มี CID4. การส่งข้อมูลซ้ำมีผลต่อการคิด Performance5. การคิด Point: DEATH 0.10 Point
เงื่อนไขการรับข้อมูลและการคิดคะแนน แฟ้ม NCDSCREEN 56 1. การให้บริการคัดกรองในปชก.อายุตั้งแต่ 15 yr.2. ทำการคัดกรองปีละครั้งต่อคน3. DATE_EXAM ต้องอยู่ในช่วง(ก.ค.55-มิ.ย.56)4. การตรวจซ้ำ : PCUCODE+CID5. การคิดค Point: 0.10 Point
เงื่อนไขการรับข้อมูลและการคิดคะแนน แฟ้ม PP & MCH 56 1. เก็บรายละเอียดการดูแลเด็กและมารดาหลังคลอด2. วันเดือนปีที่คลอด(BDATE)ต้องอยู่ในช่วง(ก.ค.55 – มิ.ย.56)3. การคิด point ต้องมีการดูแลหลังคลอดอย่างน้อย 2 ครั้ง(BCARE1<BCARE2, PPCARE1<PPCARE2)4. การตรวจซ้ำ : PP PCUCODE+CID MCH PCUCODE+CID+GRAVIDA 5. การคิด Point: 3 Point
เงื่อนไขการรับข้อมูลและการคิดคะแนน แฟ้ม NUTRI 561. เก็บภาวะโภชนาการของปชก.ที่อายุ < 15 ปี2. การสำรวจหรือบริการให้จัดส่งข้อมูลตามรอบเท่านั้น- เด็ก 0-5 ปี จัดเก็บ 4 ครั้ง (ก.ค. , ต.ค., ม.ค. และ เม.ย.)- อายุ 6- 15 ปี จัดเก็บ 2 ครั้ง (ก.ค. และ ม.ค.)3. DATE_SERV ต้องอยู่ในช่วงเดือนที่กำหนด4. Date_Send อยู่ในช่วงของสิ้นเดือนของเดือนถัดไป5. ถ้าไม่ได้บริการหรือทำการสำรวจในช่วงที่กำหนดห้ามมิให้ส่งข้อมูลนั้น6. การส่งข้อมูลซ้ำมีผลต่อ Performance
เงื่อนไขการรับข้อมูลและการคิดคะแนน แฟ้ม SURVEIL 561. เก็บรายละเอียดของโรคที่ต้องเฝ้าระวัง รง.5062. ส่งเฉพาะบริการรายใหม่และเป็นโรคที่เฝ้าระวัง3. สปสช.ตรวจสอบกับ Look up รง.5064. การส่งบริการเกินจริงมีผลให้ถูก Pending5. ความสำคัญคือต้องส่งข้อมูลโดยเร็ว6. การคิดค Point: <= 7 days 1.00 Point8 – 60 days 0.50 Point> 90 days 0.00 Point
เงื่อนไขการรับข้อมูลและการคิดคะแนน แฟ้ม SERVICE,DIAG,DRUG,PROCED 561. การให้บริการต้องเชื่อมโยงข้อมูลได้ โดยอย่างน้อยต้องมีข้อมูล SERVICE & DIAG2. กรณีการให้บริการ ส่งเฉพาะบริการรายใหม่3. การส่งบริการเกินจริงมีผลให้ถูก Pending4. การคิดค Point: SERVICE 1.00 PointDIAG 0.00 PointPROCED 0.00 PointDRUG 0.05 Point
เงื่อนไขการรับข้อมูลและการคิดคะแนน แฟ้ม CHRONIC 561. เป็นแฟ้มสะสม2. สำรวจสถานะปัจจุบันในเดือน กรกฎาคม 2555 (เท่านั้น)3. ไม่มีการส่งข้อมูล update4. กรณีการให้บริการ ส่งเฉพาะบริการรายใหม่5. การส่งสำรวจซ้ำมีผลต่อการคิด Performance6. คิดคะแนนเฉพาะโรคที่กำหนด7. การคิด Point: CHRONIC 0.05 Point
เงื่อนไขการรับข้อมูลและการคิดคะแนน แฟ้ม PERSON 561. แฟ้มสะสมเก็บโดยการสำรวจไม่ส่งซ้ำ(ส่งปีละครั้ง(ทั้งหมด)>>>ก.ค.55 )2. การส่งสำรวจซ้ำ/ส่งซ้ำ มีผลต่อการคิด Performance3. การคิด Point: PERSON 0.10 Point
เงื่อนไขการรับข้อมูลและการคิดคะแนน แฟ้ม DEATH 561. เป็นแฟ้มสะสม2. เริ่มส่ง death ตั้งแต่ 1 ก.ค.55 (DDEATH)3. Death จ่ายเฉพาะที่มี CID4. การส่งข้อมูลซ้ำมีผลต่อการคิด Performance5. การคิด Point: DEATH 0.10 Point
โปรแกรมตรวจสอบข้อมูลบริการสุขภาพ OP-PP2010
ยาแก้แพ้
โรคหวัด และโรคภูมิแพ้ หลายคนรู้ดีว่า
หากป่วยเป็นเมื่อไหร่ มีผลบั่นทอนประสิทธิภาพการทำงาน และการใช้ความคิด
จึงสมควรรักษาตัวให้หายโดยเร็ว ยิ่งปัจจุบันนี้
ไข้หวัดและภาวะภูมิแพ้ทวีความรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม เช่น ไข้หวัดนก
ไข้หวัดสายพันธุ์ใหม่ ที่ป่วยแล้วอาจทำให้เสียชีวิตได้
สาเหตุ ที่โรคดังกล่าวรุนแรงขึ้น นายแพทย์อธิก แสงอาสภวิริยะ อายุรแพทย์โรคภูมิแพ้ โรงพยาบาลพญาไท 2 กล่าวในงานเสวนาสุขภาพ "หยุดไข้หวัด ภูมิแพ้ ตัวถ่วงความเจริญ" จัดโดยโรงพยาบาลพญาไท2 แลดีคอลเจน
นายแพทย์อธิก เผยว่า โรคหวัด โรคภูมิแพ้ รุนแรงขึ้นจากหลายสาเหตุ อาทิ เชื้อโรคสายพันธุ์ใหม่พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ, การเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศส่งผลให้การระบาดรวดเร็วและกว้างขวาง, การใช้ชีวิตที่ไม่สมดุลของคนสมัยใหม่ พักผ่อนน้อย ไม่ออกกำลังกาย เครียด สูบบุหรี่จัด กินไม่ถูกสุขอนามัยและหลักโภชนาการ จนกลายเป็นโรคอ้วน ส่งให้ภูมิต้านทานร่างกายลดลง ป่วยไข้ได้บ่อย ติดหวัดหรือภูมิแพ้กำเริบได้ง่าย
ประสบการณ์การรักษาคนไข้ของนาย แพทย์อธิก ยังทำให้พบว่า ผู้ป่วยร้อยละ 20 ที่ปล่อยตัวเองให้เป็นหวัดและภูมิแพ้อย่างเรื้อรัง มักลามไปเป็นโรคทางเดินหายใจอื่นๆ ที่หนักยิ่งขึ้น เช่น ไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดบวม โรคหืด โรคริดสีดวงจมูก
ขณะที่ร้อยละ 30 ของผู้ป่วยนั้นเป็นวัยทำงานที่มีอายุระหว่าง 35-50 ปี จะมีโรคประจำตัวติดตัวมาด้วย ทั้งๆ ที่ยังไม่เข้าวัยชรา เช่น โรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน ไต เมื่อใดที่เกิดเป็นไข้หวัดหรือภูมิแพ้ก็จะส่งผลให้โรคประจำตัวที่เป็นทรุดลง ไปด้วย แถม 1 ใน 4 ของผู้ป่วยกลุ่มนี้ เมื่อป่วยแล้วต้องลาหยุดงานอย่างน้อย 1 วัน เพื่อพักรักษาตัว แสดงให้เห็นว่า เมื่อโรคหวัด ภูมิแพ้ มาเจอกับโรคประจำตัวอื่นๆ ยิ่งทำให้ร่างกายทรุดหนัก จนเสียเวลาการทำงานได้
สำหรับ การรักษาด้วยการใช้ยาบรรเทาโรคหวัดและภูมิแพ้ นายแพทย์อธิก บอกไว้ว่า ยาจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ กลุ่มแรก คือ กินแล้วง่วง มีตัวยาคลอเฟนิรามีน ช่วยลดการคัดจมูก ผสมกับตัวยาเฟนิลเอฟริน ช่วยลดการคั่งในโพรงจมูก เมื่อกินยากลุ่มนี้แล้วง่วง ต้องนอนหลับพักผ่อน ช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูสภาพตัวเองให้กลับมาแข็งแรง สดชื่นขึ้น
อีกกลุ่ม กินแล้วไม่ง่วง เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของคลอเฟนิรามีน จึงเหมาะกับคนที่ทำงานหน้าเครื่องจักร หรือคนที่ต้องขับยานพาหนะ ไม่สามารถหยุดพักผ่อนได้ แต่นายแพทย์อธิก แนะว่า แม้การกินยาบรรเทาในกลุ่มหลังนี้จะไม่ทำให้ง่วง ร่างกายที่ไม่ได้พักก็อาจทำให้หายช้า เสี่ยงรุกลามไปเป็นโรคอื่น ดังนั้นก่อนใช้ยา ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรให้เข้าใจถึงคุณสมบัติและการใช้ที่เหมาะสมและ ปลอดภัย.
ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
takecareDD@gmail.com
ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
สาเหตุ ที่โรคดังกล่าวรุนแรงขึ้น นายแพทย์อธิก แสงอาสภวิริยะ อายุรแพทย์โรคภูมิแพ้ โรงพยาบาลพญาไท 2 กล่าวในงานเสวนาสุขภาพ "หยุดไข้หวัด ภูมิแพ้ ตัวถ่วงความเจริญ" จัดโดยโรงพยาบาลพญาไท2 แลดีคอลเจน
นายแพทย์อธิก เผยว่า โรคหวัด โรคภูมิแพ้ รุนแรงขึ้นจากหลายสาเหตุ อาทิ เชื้อโรคสายพันธุ์ใหม่พัฒนาขึ้นมาเรื่อยๆ, การเปลี่ยนแปลงสภาวะอากาศส่งผลให้การระบาดรวดเร็วและกว้างขวาง, การใช้ชีวิตที่ไม่สมดุลของคนสมัยใหม่ พักผ่อนน้อย ไม่ออกกำลังกาย เครียด สูบบุหรี่จัด กินไม่ถูกสุขอนามัยและหลักโภชนาการ จนกลายเป็นโรคอ้วน ส่งให้ภูมิต้านทานร่างกายลดลง ป่วยไข้ได้บ่อย ติดหวัดหรือภูมิแพ้กำเริบได้ง่าย
ประสบการณ์การรักษาคนไข้ของนาย แพทย์อธิก ยังทำให้พบว่า ผู้ป่วยร้อยละ 20 ที่ปล่อยตัวเองให้เป็นหวัดและภูมิแพ้อย่างเรื้อรัง มักลามไปเป็นโรคทางเดินหายใจอื่นๆ ที่หนักยิ่งขึ้น เช่น ไซนัสอักเสบ หลอดลมอักเสบ ปอดบวม โรคหืด โรคริดสีดวงจมูก
ขณะที่ร้อยละ 30 ของผู้ป่วยนั้นเป็นวัยทำงานที่มีอายุระหว่าง 35-50 ปี จะมีโรคประจำตัวติดตัวมาด้วย ทั้งๆ ที่ยังไม่เข้าวัยชรา เช่น โรคหัวใจ ความดัน เบาหวาน ไต เมื่อใดที่เกิดเป็นไข้หวัดหรือภูมิแพ้ก็จะส่งผลให้โรคประจำตัวที่เป็นทรุดลง ไปด้วย แถม 1 ใน 4 ของผู้ป่วยกลุ่มนี้ เมื่อป่วยแล้วต้องลาหยุดงานอย่างน้อย 1 วัน เพื่อพักรักษาตัว แสดงให้เห็นว่า เมื่อโรคหวัด ภูมิแพ้ มาเจอกับโรคประจำตัวอื่นๆ ยิ่งทำให้ร่างกายทรุดหนัก จนเสียเวลาการทำงานได้
สำหรับ การรักษาด้วยการใช้ยาบรรเทาโรคหวัดและภูมิแพ้ นายแพทย์อธิก บอกไว้ว่า ยาจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ๆ กลุ่มแรก คือ กินแล้วง่วง มีตัวยาคลอเฟนิรามีน ช่วยลดการคัดจมูก ผสมกับตัวยาเฟนิลเอฟริน ช่วยลดการคั่งในโพรงจมูก เมื่อกินยากลุ่มนี้แล้วง่วง ต้องนอนหลับพักผ่อน ช่วยให้ร่างกายฟื้นฟูสภาพตัวเองให้กลับมาแข็งแรง สดชื่นขึ้น
อีกกลุ่ม กินแล้วไม่ง่วง เนื่องจากไม่มีส่วนผสมของคลอเฟนิรามีน จึงเหมาะกับคนที่ทำงานหน้าเครื่องจักร หรือคนที่ต้องขับยานพาหนะ ไม่สามารถหยุดพักผ่อนได้ แต่นายแพทย์อธิก แนะว่า แม้การกินยาบรรเทาในกลุ่มหลังนี้จะไม่ทำให้ง่วง ร่างกายที่ไม่ได้พักก็อาจทำให้หายช้า เสี่ยงรุกลามไปเป็นโรคอื่น ดังนั้นก่อนใช้ยา ควรปรึกษาแพทย์และเภสัชกรให้เข้าใจถึงคุณสมบัติและการใช้ที่เหมาะสมและ ปลอดภัย.
ทีมเดลินิวส์ออนไลน์
takecareDD@gmail.com
ที่มาข้อมูล : หนังสือพิมพ์เดลินิวส์
วันศุกร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2555
เรื่องของนิ่ว
นิ่วในไต Renal calculi
นิ่วในไตจะพบในประเทศอุตสาหกรรมมากกว่าประเทศเกษตรกรรม นิ่วในไตมักเกิดจากการที่ปัสสาวะเข้มข้นมาก และตกตะกอนเป็นนิ่วมักจะเกิดที่ไตบริเวณกรวยไต และเมื่อนิ่วหลุดลงมาท่อไตก็จะเกิดอาการปวดท้องทันทีเหมือนคนปวดท้องคลอดลูก
ท่อไตจะนำปัสสาวะจากไตไหลลงสู่กระเพาะปัสสาวะ
นิ่วในไตคืออะไร
นิ่วในไตเกิดจากการตกผลึกของของเสียที่ขับออกทาง ปัสสาวะ ปกติในปัสสาวะจะสารเคมีบางชนิดที่ป้องกันการตกตะกอน แต่เนื่องจากมีปัจจัยบางอย่างทำให้กลไกนี้ไม่ทำงานจึงเกิดการตกตะกอน หากตะกอนมีก้อนเล็กก็จะถูกขับออกจากไตทางปัสสาวะ แต่หากไม่ถูกขับออกและหากตะกอนมีขนาดใหญ่ขึ้นจนอุดทางเดินของปัสสาวะก็จะ เกิดอาการของนิ่ว
ส่วนประกอบที่สำคัญของนิ่วได้แก่แคลเซี่ยมซึ่งอาจ จะรวมกับ oxalate หรือ phosphate สารต่างๆเหล่านี้ได้จากอาหารที่เรารับประทานเข้าไป นอกจากนั้นยังมีนิ่วที่เกิดจากการติดเชื้อเรียกว่า struvite และนิ่วที่เกิดจากกรดยูริก
จาก siamhealth
นิ่วในไตจะพบในประเทศอุตสาหกรรมมากกว่าประเทศเกษตรกรรม นิ่วในไตมักเกิดจากการที่ปัสสาวะเข้มข้นมาก และตกตะกอนเป็นนิ่วมักจะเกิดที่ไตบริเวณกรวยไต และเมื่อนิ่วหลุดลงมาท่อไตก็จะเกิดอาการปวดท้องทันทีเหมือนคนปวดท้องคลอดลูก
- พบว่าเมื่อเป็นนิ่วโอกาสที่จะเกิดเป็นซ้ำประมาณครึ่งหนึ่งในเวลา 10 ปี
- ผู้ป่วยร้อยละ 80 นิ่วสามารถออกได้เอง
นิ่วในไตคืออะไร
นิ่วในไตเกิดจากการตกผลึกของของเสียที่ขับออกทาง ปัสสาวะ ปกติในปัสสาวะจะสารเคมีบางชนิดที่ป้องกันการตกตะกอน แต่เนื่องจากมีปัจจัยบางอย่างทำให้กลไกนี้ไม่ทำงานจึงเกิดการตกตะกอน หากตะกอนมีก้อนเล็กก็จะถูกขับออกจากไตทางปัสสาวะ แต่หากไม่ถูกขับออกและหากตะกอนมีขนาดใหญ่ขึ้นจนอุดทางเดินของปัสสาวะก็จะ เกิดอาการของนิ่ว
ส่วนประกอบที่สำคัญของนิ่วได้แก่แคลเซี่ยมซึ่งอาจ จะรวมกับ oxalate หรือ phosphate สารต่างๆเหล่านี้ได้จากอาหารที่เรารับประทานเข้าไป นอกจากนั้นยังมีนิ่วที่เกิดจากการติดเชื้อเรียกว่า struvite และนิ่วที่เกิดจากกรดยูริก
จาก siamhealth
วันพุธที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2555
ข่าว OP/PP
ข่าวล่าสุดจากการชี้แจงของ สปสช.วันนี้ พบว่า...เงินเท่าเดิม...งานมากก ว่าเดิม เน้น การดูแลแม่และเด็ก ที่สำคัญที่สุดข้อมูล person ไม่เป๊ะจริงจะลำบากไปหมดทุกแฟ้ม ...กลับ
ไปดูข้อมูล person เช็คเรื่องชื่ออยู่ ตัวอยู่ ชื่ออยู่ ตัวไม่อยู่
หรือแม้แต่ชื่อไม่อยู่ ตัวอยู่ ให้ดี เพราะจะมีผลต่อหลาย ๆ
แฟ้ม....จำได้แค่นี้...คิดออกจะ บอกอีก จาก Facebook
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)